Home Automation
Home Automation คืออะไรและทำงานอย่างไร? Home Automation เกี่ยวข้องกับการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าและระบบโดยอัตโนมัติผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยใช้เซ็นเซอร์ ตัวควบคุม และหัวขับเชื่อมโยงกับศูนย์รวมหรือแอปมือถือ วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบและจัดการระบบไฟส่องสว่าง ระบบรักษาความปลอดภัย สภาพอากาศ และความบันเทิงได้จากระยะไกล ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพ
ส่วนประกอบระบบ Home Automation
1. เซ็นเซอร์: การตรวจจับการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อม (การเคลื่อนที่ อุณหภูมิ แสง)
2. หัวขับ: ควบคุมอุปกรณ์ทางกายภาพ (ไฟ ล็อค เทอร์โมสตัท)
3. ตัวควบคุม/ฮับ: หน่วยประมวลผลกลางที่จัดการการสื่อสาร
4. เครือข่าย (Wi-Fi, Zigbee, Z-Wave): เปิดใช้งานการเชื่อมต่ออุปกรณ์
5. User Interface (App, Voice Assistants): อนุญาตให้ควบคุมและตรวจสอบ
คุณสมบัติเด่นของ Home Automation จาก Schneider Electric คือ
• ปรับแต่งการใช้งานตามความต้องการ (Customizable Settings): สามารถตั้งค่าการทำงานให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย เช่น ตั้งโปรแกรมการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติในเวลาที่กำหนด, การปรับอุณหภูมิห้องตามสภาพอากาศ, หรือตั้งค่าระบบเสียงในบ้านเพื่อสร้างบรรยากาศต่างๆ ได้อย่างอิสระ
• การควบคุมจากระยะไกล (Remote Access): Schneider Electric ใช้เทคโนโลยี EcoStruxure™ เพื่อเชื่อมต่อและควบคุมอุปกรณ์จากทุกที่ในโลก เพียงแค่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้เจ้าของบ้านสามารถสั่งการระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก แม้จะอยู่ข้างนอกบ้าน
• การประหยัดพลังงาน (Energy Efficiency): เทคโนโลยีช่วยตรวจจับและควบคุมการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาด เช่น การหรี่ไฟอัตโนมัติตามแสงสว่างภายนอก, การปิดระบบเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่มีคนอยู่ในห้อง และการตรวจจับการใช้พลังงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชิ้น เพื่อช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ความปลอดภัยสูงสุด (Enhanced Security): Home Automation จาก Schneider มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัย เช่น กล้องวงจรปิด, การตรวจจับความเคลื่อนไหว และการแจ้งเตือนเมื่อมีสิ่งผิดปกติ สามารถตรวจสอบและสั่งการได้ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอุ่นใจตลอดเวลา
• ความสะดวกสบายในการติดตั้ง (Ease of Installation): ระบบสามารถเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้โดยไม่ยุ่งยาก อีกทั้งยังสามารถอัพเกรดหรือเพิ่มเติมอุปกรณ์ต่างๆ ได้ตามความต้องการของผู้ใช้
บ้านอัจฉริยะ เป็นเทรนด์ที่กำลังเติบโตในตลาดเทคโนโลยี ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของผู้คน ด้วยการใช้ Internet of Things (IoT) ฟังก์ชันต่างๆ ในบ้านหรืออาคารของคุณจะถูกทำให้ทำงานอัตโนมัติ ทำให้ควบคุมความปลอดภัยของทรัพย์สินได้ดีขึ้น กำหนดเวลาการใช้งานอุปกรณ์ ปรับแต่งการตั้งค่าส่วนตัว แจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน และอื่นๆ อีกมากมาย
ประโยชน์ของบ้านอัจฉริยะ :
• การควบคุมจากส่วนกลาง: คุณสามารถควบคุมอุปกรณ์และระบบต่างๆ ในบ้านของคุณโดยใช้เพียงอุปกรณ์เดียว เช่น แท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟน
• ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน: ควบคุมและลดการใช้พลังงานของคุณ ลดความเสี่ยงในการเปิดไฟทิ้งไว้ และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น
• ความปลอดภัย: ระบบกล้อง เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และสัญญาณเตือนของคุณถูกผสานเข้าในอินเทอร์เฟซเดียวและสามารถเข้าถึงได้ทุกเมื่อทุกที่
• ความสะดวก: การตั้งโปรแกรมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟ เครื่องปรับอากาศ และมู่ลี่ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันของคุณ
บ้านอัจฉริยะ นำเสนอเทคโนโลยีอาคารอัจฉริยะที่แปลงเป็นความยืดหยุ่น ความปลอดภัย ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และความสะดวกสบาย KNX คือระบบบ้านอัจฉริยะ และระบบควบคุมอาคารอัจฉริยะที่สามารถรองรับสภาพแวดล้อมต่างๆได้ คุณสามารถกำหนดค่าพารามิเตอร์และขยายฟังก์ชันทั้งหมดได้โดยไม่ทำให้ตัวอาคารและระบบเสียหาย ระบบบ้านอัจฉริยะ ประกอบด้วยการควบคุมม่าน/สวิตช์ ควบคุการหรี่แสง และหน่วยควบคุมอุณหภูมิห้อง นอกจากนี้ แคตตาล็อกยังรวมถึง C-Bus ซึ่งเป็นระบบสายไฟระบบอัตโนมัติภายในบ้านเพื่อควบคุมแสงสว่างและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ
• มีการใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงการควบคุมบ้านพักอาศัย การควบคุมแสงสว่างเชิงพาณิชย์ และแสงไฟสร้างบรรยากาศ
• ผลิตภัณฑ์ของระบบบ้านอัจฉริยะ ที่มอบนวัตกรรมและความสะดวกสบาย
• กลไกการควบคุมบ้านที่ควบคุมความปลอดภัยของบ้านของคุณ
• เลือกตารางเวลาและทำงานอัตโนมัติตามความต้องการของคุณ
บ้านอัจฉริยะ มี 3 ระบบ:
• บ้านอัจฉริยะที่ใช้สายไฟ – ตัวเลือกต้นทุนต่ำที่ใช้สายไฟที่มีอยู่แทนสายไฟเพิ่มเติมเพื่อถ่ายโอนข้อมูล
• บ้านอัจฉริยะที่ใช้สายหรือสาย BUS – เครื่องใช้ในบ้านเชื่อมต่อกันด้วยตัวควบคุมหลัก (ตัวควบคุมลอจิกที่ตั้งโปรแกรมได้)
• ระบบบ้านอัจฉริยะแบบไร้สาย – การพัฒนาและขยายระบบอัตโนมัติแบบมีสายซึ่งช่วยให้สามารถควบคุมจากระยะไกลได้ผ่านเทคโนโลยีไร้สาย เช่น Wi-Fi และ Bluetooth